วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ปกรณัมแห่งไอซิส ตอนที่ 4




กล่าวกันว่า ระหว่างทางกลับสู่ภูมิสถานเดิมนั้น พระเทวีไอซิส มักจะทรงเปิดหีบพระศพออกเป็นระยะ ทอดพระองค์ลงข้างๆ พระสวามี และกรรแสงสะอึกสะอื้น

ไม่ว่าผู้ใดเห็นภาพนั้น ต่างก็พากันร้องไห้ไปกับพระนาง

ในที่สุด เมื่อถึงเขตแดนแห่งอาณาจักรอียิปต์ พระนางทรงให้อัญเชิญหีบพระศพไปซ่อนไว้ที่เกาะเคมมิส เพื่อรอให้ถึงฤกษ์ ที่พระนางจะทรงใช้เวทมนต์ขั้นสูงสุด

คือ มนต์ที่ทำให้พระสวามีฟื้นคืนชีพ

ซึ่งทั่วทั้งแผ่นดินไอยคุปต์ นอกจากพระนางแล้ว ก็ทรงมีแต่เทพธอธเท่านั้นที่สามารถทำเช่นนี้ได้

จากนั้นทรงให้เรือ และเหล่านางกำนัลของราชินัสตาร์เตที่ตามเสด็จมาด้วย กลับสู่ไบบลอส

แล้วพระนางเอง ก็เสด็จไปที่วังของนางพญางูวัดเจ็ท ทรงพอพระทัยมากที่พระโอรสได้รับการอภิบาลอย่างดีที่นั่น 

ทรงกอด และหยอกล้อกับพระโอรสที่กำลังซุกซน หลังจากห่างหายไปนาน  แม้จะทรงเหน็ดเหนื่อยจากการตรากตรำอย่างหนัก

พลันนั้น ข่าวอันน่าตระหนกก็มาถึง

พระแม่เจ้า พระองค์และพระโอรสจะต้องเสด็จประทับที่นี่ อย่าเพิ่งกลับไปที่เกาะเคมมิส

นางพญางูรีบกราบทูล

เทพเซธรู้แล้วว่า พระองค์ทรงนำพระสวามีกลับมาอียิปต์ ตอนนี้พวกมันกำลังพากันไปที่เกาะนั้น!




ฉันจะไม่ยอมให้เซธกระทำการอันชั่วร้ายใดๆ กับสามีของฉันอีกพระเทวีตรัสอย่างรวดเร็ว

ฉันจะไปขัดขวางพวกมัน!

พระแม่เจ้าไม่อาจขัดขวางพวกมันได้ ไม่เพียงเท่านั้น พระโอรสจะเป็นอันตรายไปด้วย

นางพญางูยืนยัน

ไม่มีประโยชน์ที่จะเสี่ยง อยู่กับหม่อมฉันที่นี่ พระโอรสปลอดภัย และพระองค์เองสามารถแก้แค้นได้ภายหลังเมื่อโอกาสมาถึง

พระเทวีได้แต่ทรงกรรแสง

พระนางทรงอ่อนล้าเกินกว่าจะทำอะไรได้อีกต่อไปจริงๆ จึงจำต้องทรงยอมกระทำตามคำแนะนำของนางพญางูศักดิ์สิทธิ์

ในขณะเดียวกัน เทพเซธและบริวารก็ค้นพบหีบพระศพที่เกาะเคมมิส เทพเซธถึงกับตรัสด้วยความอาฆาตแค้น

ถ้ายังรักษาศพเอาไว้ได้ วิญญาณของโอสิริสก็ยังคงอยู่ และในไม่ช้า ไอซิสจักใช้เวทมนต์ปลุกให้ศัตรูของเราผู้นี้ฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ 

เพราะฉะนั้น ต้องทำลายศพนี้เสีย เพื่อให้วิญญาณของมันถูกทำลายไปด้วย!

และพลันนั้นเอง เทพผู้ชั่วร้ายก็สั่งให้บริวารนำพระศพออกมาตัดเป็นชิ้นๆ จำนวน 14 ชิ้น แล้วให้นำแต่ละชิ้นไปทิ้งกระจัดกระจายตามดินแดนต่างๆ ทั่วอาณาจักร

จากนั้น พระองค์ก็เสด็จกลับดินแดนทะเลทรายด้วยความพอพระทัย
         
เหตุการณ์นี้ ทำให้พระหฤทัยของพระเทวีไอซิสแทบแตกสลาย ความหวังที่จะปลุกพระชนม์ชีพพระสวามีย่อยยับไปในพริบตา

แต่เมื่อทรงบรรเทาอาการโศกเศร้าลงไปบ้างแล้ว พระเทวีก็ทรงทราบด้วยพระปรีชาญาณว่า... 

แม้การที่เทพเซธบั่นพระศพออกเป็นชิ้นๆ เช่นนั้น จะทำให้ดวงพระวิญญาณของพระสวามี เข้าเขตมรณะไปแล้วอย่างสมบูรณ์

แต่ถ้าพระนางทรงนำชิ้นส่วนทั้งหมด กลับมาประกอบเข้าด้วยกันได้ ดวงพระวิญญาณนั้นก็อาจฟื้นคืนขึ้นใหม่ ทำให้พระสวามีกลายเป็นเทพเจ้าผู้ทรงศักดานุภาพอีกครั้ง
         
เทพนารีผู้เลอโฉม จึงจำต้องทรงฝากฝังพระโอรสที่กำลังน่ารัก ไว้กับนางพญางูอีกครั้ง แล้วล่องเรือไปตามแม่น้ำไนล์ ท่ามกลางการอารักขาของฝูงจระเข้ทั้งหลาย

ในการนี้ เทวีเนฟธีสซึ่งไม่อาจจะทนอยู่ร่วมกับเทพเซธอีกต่อไปแล้ว ได้หนีมาจากอาณาจักรทะเลทราย และทรงขอตามเสด็จไปด้วย




ขณะเดียวกัน เทพอนูบิสก็ทรงแปลงร่างเป็นสุนัขไน ตามเสด็จบนบกเลียบฝั่งน้ำ เพื่อถวายการอารักขาไปตลอดทาง

ทั้งสองพี่น้องแวะไปทั่วดินแดนสองฝั่งแม่น้ำ เก็บรวบรวมพระศพทีละชิ้นๆ ด้วยความอุตสาหะ

เมื่อพบชิ้นส่วนพระศพที่ใด ก็โปรดฯ ให้สร้างเทวสถานไว้ที่นั่น และปล่อยข่าวหลอกเทพเซธว่า ทรงให้รักษาชิ้นส่วนพระศพที่พบไว้ในเทวสถานเหล่านั้นด้วย

แต่แท้ที่จริง พระนางกลับนำชิ้นส่วนพระศพที่รวบรวมได้จนครบ 14 ชิ้นไปรวมกันไว้ที่ อบีดอส (Abydos) ทั้งสิ้น

โดยเทพอนูบิส ทำหน้าที่ประกอบพระศพเข้าด้วยกัน แล้วใช้ผ้าลินินเนื้อดีที่สุด พันไว้อย่างแน่นหนา เป็นต้นแบบของการถนอมพระศพกษัตริย์ และราชวงศ์แห่งอียิปต์ต่อมา

เมื่อประกอบพระศพได้สำเร็จแล้ว เป็นเวลาพอดีฤกษ์ พระเทวีไอซิสทรงร่ายพระเวทปลุกดวงพระวิญญาณของจอมเทพโอสิริสทันที




และโดยพลัน จอมเทพโอสิริสก็ทรงฟื้นคืนพระชนม์อีกครั้ง กลายเป็นเทพเจ้าอย่างสมบูรณ์ 

พระวรกายอันงดงามของพระองค์ ทอแสงเจิดจรัสไปทั่วแดนไอยคุปต์ ยังความยินดีเป็นล้นพ้นแก่พระเทวีไอซิส และเทพเจ้าทุกองค์

จอมเทพทรงมีพระดำรัสว่า

ไอซิส, ฉันขอขอบใจที่เธอได้ใช้ความพยายามและความสามารถทั้งหมด จนทำให้ฉันมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง 

ด้วยเหตุนี้ ฉันขอแต่งตั้งเธอให้เป็นมารดาแห่งเวทมนต์และปรีชาญาณ พลังอำนาจ และความจงรักภักดีของเธอ จักเป็นที่กล่าวขานทั่วไปในโลกนี้อีกนับพันนับหมื่นปี

บัดนี้, ฉันตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ฉันไม่อาจครองบัลลังก์แห่งอียิปต์ต่อไปได้อีก เพราะมันจะตกเป็นของผู้เหมาะสมยิ่งกว่า นั่นก็คือลูกชายของเราทั้งสอง 

ขอให้เธอและเนฟธีส จงช่วยเหลือเขาให้บรรลุถึงสิ่งนั้น




ส่วนตัวฉันเองจะไปสู่ปรโลก เพื่อครอบครองที่นั่น ทำหน้าที่พิพากษาความดีความชั่วของผู้วายชนม์ต่อไป 

มื่อเธอทั้งสองสำเร็จภารกิจทั้งหลาย เกี่ยวแก่โฮรุสในอีกไม่ช้านี้ เราจักได้อยู่ร่วมกันในปรโลก

ตรัสจบแล้ว จอมเทพทรงสวมกอดพระชายาอย่างอ่อนโยนชั่วขณะหนึ่ง แล้วเลือนหายไปจากที่นั่น 

ไปสู่ หอแห่งการพิพากษา (Hall of Judgement) แห่งสัมปรายภพ ซึ่งบัดนี้ได้กลายเป็นที่ประทับแห่งใหม่ของพระองค์



……………………………


หมายเหตุ : เนื้อหาในบทความนี้ มีลิขสิทธิ์ ใครจะนำไปใช้อ้างอิงที่ใด ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด จะต้องระบุ URL ของแต่ละบทความด้วย และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าโดยเด็ดขาด

มงคลและอัปมงคล

  * วัตถุมงคลในบทความนี้ ไม่มีให้เช่าบูชา * ผมเคยอ่านโพสต์ใน facebook ของซินแสฮวงจุ้ยท่านหนึ่ง ท่านแนะนำว่า รูปภาพและสิ่งของที่ทำเลียนแบบโ...