วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ปกรณัมแห่งไอซิส ตอนที่ 5 (จบ)




เทพเซธมิได้ทรงทราบถึงการปลุกพระชนม์จอมเทพโอสิริส แต่เพียงแค่ทรงทราบว่า จอมเทพโอสิริสทรงมีรัชทายาทแล้ว ก็ทำให้พระองค์คลั่งแค้นมาก ทรงมีรับสั่งว่า

ตอนนี้เทวบัลลังก์แห่งโลกว่างเปล่า เทพฮาร์มาคิสผู้พี่ของเรา ก็ไม่ปรารถนามัน มันกำลังจะเป็นของเราโดยชอบ แต่นี่ไอซิสกลับมีลูกชายแอบซ่อนเราไว้

ครอบครัวนี้เป็นอุปสรรคแก่เราแท้จริง เราจักหาตัวเด็กคนนี้ให้พบ และฆ่ามันเสีย
         
พระองค์สั่งบริวารออกไปทั่วดินแดนอียิปต์ เพื่อสืบข่าวเกี่ยวกับยุวเทพโฮรุส ในไม่ช้าก็มีคนพบว่า พระเทวีไอซิสกำลังเสด็จกลับไปยังเกาะเคมมิสอย่างรีบด่วน

ดังนั้น ภายหลังพระเทวีไปถึงเกาะดังกล่าวเพียงไม่ทันข้ามวัน เทพเซธก็เสด็จไปถึง และเร้นกายอยู่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำไนล์ เพื่อรอเวลาที่เหมาะสม

คืนนั้นเป็นวันพระจันทร์เต็มดวง เป็นวันที่จันทรเทพคอนซูทรงมีเทวานุภาพสูงสุดในการควบคุมทุกสิ่งบนพื้นพิภพ

พระเทวีไอซิสจึงเสด็จออกจากที่ซ่อน และเริ่มประกอบพิธีบูชาองค์จันทรเทพ เพื่อขออำนาจคุ้มครององค์ยุวเทพ

แต่เพียงองค์เทวีทรงเริ่มหลับพระเนตรและบริกรรมคาถา เทพเซธก็แปลงร่างเป็นแมงป่องขนาดใหญ่ คลานเข้าไปถึงพระแท่นบรรทมของยุวเทพโฮรุส แมงป่องนั้นต่อยองค์ยุวเทพที่กำลังบรรทมถึง 3 แห่ง
         
เสียงร้องของพระโอรส ทำให้พระเทวีเย็นวาบไปทั้งพระวรกาย พระนางรีบกลับเข้าไป อุ้มพระโอรสองค์น้อยขึ้นด้วยพระหัตถ์อันสั่นเทา ทรงกรีดร้องเมื่อเห็นรอยแผลของพระโอรส ทรงทราบทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

พระเทวีไอซิสกอดพระโอรสไว้แนบพระทรวง บริกรรมคาถาอันทรงอานุภาพทำลายพิษแมงป่องทันที
         
พิษร้ายของแมงป่องค่อยบรรเทาลง แต่องค์เทพโฮรุสทรงพระเยาว์เกินกว่าจะทานทนได้ สิ่งนี้ร้ายแรงเกินไปสำหรับพระองค์

เมื่อถึงตอนเช้า พระองค์ก็สิ้นพระชนม์
         
พระเทวีไอซิสทอดพระองค์เคียงข้างพระโอรส ทรงกรรแสงคร่ำครวญปิ่มว่าจะขาดพระทัย น่าเวทนานัก

แต่โดยพลันก็ทรงได้สติ ทรงร้องขอความช่วยเหลือจากมหาเทพธอธ ผู้ทรงอาคมยิ่งกว่าเทพองค์ใดในสวรรค์ เสียงร้องนั้นกึกก้องไปทั่วสามโลก

มหาเทพธอธได้เสด็จมาปรากฏพระองค์เบื้องหน้าองค์เทวี และตรัสว่า
         
พระนางไม่ต้องทรงวิตก โอรสของพระนางจะต้องแก้แค้นแทนบิดาของเขา และจักได้ครองเทวบัลลังก์แห่งโลกต่อไป ดังนั้นในไม่ช้า พระองค์จักฟื้นคืนพระชนม์ชีพอีกครั้งหนึ่ง

เวลานี้พระนางจงปล่อยให้ดวงพระวิญญาณพระโอรสได้ไปสู่ปรโลก เพื่อเข้าเฝ้าองค์จอมเทพโอสิริส หลังจากนั้น พระองค์จักเสด็จกลับมาสู่โลกนี้ และกระทำภารกิจของพระองค์ให้ลุล่วง

ระหว่างนั้น เราจะเรียกประชุมเหล่าเทพเจ้าทั้งหลาย เพื่อลงมติร่วมกันถึงสิทธิในการครองบัลลังก์ของเทพเซธ จงใช้ปรีชาญาณของพระนางเพื่อมิให้เทพเซธสมหวัง




และแล้ว เทวสภาอันศักดิ์สิทธิ์ก็เกิดขึ้นในโลกมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง

องค์สุริยเทพราได้เสด็จเป็นประธาน ท่ามกลางเหล่าเทพเจ้าและมวลมนุษย์ทั้งหลาย พระเทวีไอซิสก็เสด็จไปเข้าร่วมด้วย

และในไม่ช้า เทพเซธก็เสด็จเข้าสู่เทวสภาอย่างองอาจ เพราะขณะนี้ ดินแดนทั้งหมดในอาณาจักรอียิปต์ ได้ตกอยู่ภายใต้เทวอำนาจของพระองค์แล้ว

แต่เมื่อเทพเซธเริ่มต้นอ้างสิทธิ์ในเทวบัลลังก์ มหาเทพธอธกลับแย้งว่า รัชทายาทของจอมเทพโอสิริสยังอยู่

เทพเซธทรงเดือดดาลมาก ทรงเรียกหาข้อพิสูจน์กระแสรับสั่งของมหาเทพธอธ

ทันทีนั้น พระเทวีไอซิสก็เสด็จออกมาท่ามกลางเทพเจ้าทุกองค์ และตรัสยืนยันสิ่งที่มหาเทพธอธตรัสแล้วทุกประการ

นี่ไม่เป็นความจริง! เทพเซธตรัสอย่างเกรี้ยวกราด

ไอซิสอ้างถึงพระโอรสของจอมเทพ ซึ่งไม่มีตัวตน พวกเราอย่าได้หลงเชื่อ แท้จริงหญิงคนนี้ต้องการครองเทวบัลลังก์ไอยคุปต์เสียเองต่างหาก

องค์สุริยเทพผู้ทรงเป็นประธานแห่งเทวสภานี้ คงจะทรงระลึกได้กระมัง ว่าหญิงคนนี้ได้กระทำสิ่งใด เพื่อช่วงชิงเทวบัลลังก์แห่งโลกจากพระองค์ไปให้สามีของนาง

ขอให้พวกเราทั้งหลาย จงขับไล่นางไปเสียจากที่ประชุมนี้ หาไม่ เราจักทำให้เกิดสงครามครั้งใหญ่ และทุกคนที่ขัดขวางจะไม่มีชีวิตรอด”

สุริยเทพรา ซึ่งทรงไม่พอพระทัยพระเทวีไอซิสอยู่แล้ว ทรงเห็นด้วยทันที

พระองค์รับสั่งให้เลิกการประชุม และทรงมีเทวโองการให้เทพทุกองค์เสด็จมาลงมติร่วมกันในวันรุ่งขึ้น โดยไม่อนุญาตให้พระเทวีไอซิสเข้าร่วมอีกต่อไป

ดูเหมือนเทพเซธกำลังได้เปรียบ แต่เทพนารีผู้เลอโฉมก็มิได้ย่อท้อ

พระนางเสด็จไปวางแผนอันลี้ลับอย่างหนึ่ง ร่วมกับพระขนิษฐา คือเทวีเนฟธีส




วันรุ่งขึ้น พระเทวีไอซิสก็มิได้เสด็จมาร่วมประชุมสภาจริงๆ มีแต่เทวีเนฟธีส ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่าได้หนีจากเทพเซธไปนานแล้วเสด็จมา

เมื่อเห็นเช่นนั้น เทพเซธทรงปีติยินดีมาก ยิ่งเมื่อเทวีเนฟธีสรับสั่งว่า การที่พระนางทรงหนีไปจากพระองค์ที่ผ่านมานั้น ก็เพราะถูกสะกดด้วยเวทมนต์อันชั่วร้ายของพระเทวีไอซิส บัดนี้พระนางหลุดพ้นจากอาคมเหล่านั้นแล้ว และกลับมาเพื่ออยู่เคียงข้างพระองค์

เทพเซธถึงกับทรงลืมทุกสิ่ง ประทานอภัย และทรงสัญญาจะแต่งตั้งพระนางขึ้นเป็นราชินีแห่งอียิปต์ ทันทีที่พระองค์ได้ขึ้นครองราชย์

การที่พระองค์จะสถาปนาหม่อมฉันถึงเพียงนั้น เป็นพระกรุณาอย่างหาที่สุดมิได้

เทวีเนฟธีสตรัสอย่างอ่อนหวาน

แต่พระองค์ต้องทรงประกาศสาบาน ต่อเทวสภาเสียก่อนว่า หากหม่อมฉันมีโอรส โอรสของหม่อมฉันต้องได้ขึ้นครองเทวบัลลังก์แห่งอียิปต์ ทันทีที่เทวบัลลังก์นั้นว่างลง

และหากว่าเขายังเยาว์วัยเกินกว่าที่จะกระทำอันตรายแก่พระองค์ พระองค์จักไม่ทรงกระทำอันตรายเขาเป็นอันขาด”

เทพเซธทรงประกาศให้คำมั่นสัญญาต่อที่ชุมนุมของเหล่าเทวะทั้งหลายตามนั้น โดยไม่รอช้า

และพอสิ้นคำประกาศนั้นเอง องค์เทวีเนฟธีสก็ทรงพระสรวล

จากนั้น พระวรกายก็เปลี่ยนไปเป็นพระเทวีไอซิส ท่ามกลางความตกตะลึงของเทพทุกองค์ รวมทั้งสุริยเทพรา

พระเทวีไอซิสตรัสว่า

ฉันคือไอซิส ชายาขององค์จอมเทพโอสิริส มารดาของโฮรุส ผู้ทรงเป็นรัชทายาทอันชอบธรรมของอียิปต์

ณ บัดนี้ เทพเซธได้กระทำสัตย์สาบานแล้วว่า ลูกชายของฉันจักได้ครองเทวบัลลังก์แห่งโลกซึ่งว่างอยู่ ด้วยคำสาบานนั้น เทพเซธเป็นผู้รับรองแล้วว่า โฮรุสคือเทวกษัตริย์อันชอบธรรม ขอให้เทพเจ้าทั้งหลายที่นี่ทรงเป็นสักขีพยานด้วยเถิด

เหล่าเทพยดาทั้งหลายทรงโห่ร้องด้วยความพอพระทัย ในความชาญฉลาดของพระเทวีไอซิส ที่ทรงเอาชนะเทพเซธได้สำเร็จ แม้แต่องค์สุริยเทพก็ยังต้องทรงพระสรวล

ขณะเดียวกับที่เทพเจ้าเซธประทับยืนนิ่ง แทบจะกลายเป็นก้อนศิลา

ก่อนจะทรงคำรามด้วยพระเสียงกึกก้อง จนภูเขาใหญ่น้อยทั่วแดนอียิปต์สั่นสะเทือนแทบพังทลาย พระองค์รับสั่งว่า




เทพเจ้าเมื่อพูดแล้วย่อมไม่คืนคำ แต่โฮรุสจะไม่มีทางได้ครองแผ่นดินเป็นอันขาด เราจักรอให้มันโตเป็นหนุ่ม แล้วค่อยประหารมัน!“

จากนั้น เทพเซธและบริวารก็พากันกลับอาณาจักรทะเลทราย

พระเทวีไอซิสได้เสด็จกลับเข้าไปประทับในพระราชวังแห่งธีบีส ดำรงตำแหน่งสุริยรานี ผู้สำเร็จราชการแทนองค์ยุวเทพเป็นการชั่วคราว และผืนแผ่นดินไอยคุปต์ก็สงบสุขอีกครั้ง

จนเมื่อองค์เทพโฮรุส เสด็จกลับมาเกิดในร่างมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง และเมื่อเจริญพระชันษาขึ้น พระองค์พร้อมกับเทพฮาร์มาคิส และผู้จงรักภักดีก็ยาตราสู่สมรภูมิ

ในระหว่างการต่อสู้ ในสงครามอันศักดิ์สิทธิ์และยาวนาน กองทัพของเทพโฮรุสมีชัยชนะเหนือกองทัพของเทพเซธในการต่อสู้ทุกครั้ง 

และในที่สุด หลังจากหมดสิ้นกองกำลังในมือ เทพเซธก็พ่ายแพ้ และถูกเทพฮาร์มาคิสจับได้

แต่เมื่อพระองค์ถูกนำตัวไปถึงเทวสภา และถูกองค์สุริยเทพตัดสินให้ถูกประหารด้วยดาบของเทพโฮรุส พระองค์ก็แปลงเป็นงูสีดำเลื้อยหนีไปได้อีก

เทพโฮรุส ต้องยกทัพออกตามล่าปรปักษ์ของพระองค์อีกครั้ง จนในที่สุดการรบครั้งสุดท้ายได้บังเกิดที่เมือง เอ็ดฟู (Edfu)

ที่นั่น เทพโฮรุสสามารถประหารเทพเซธ ซึ่งแปลงร่างเป็นฮิปโปโปเตมัสสีแดงขนาดยักษ์ได้สำเร็จ




โดยระหว่างการรบ เทพเซธสามารถควักดวงเนตรศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ได้ข้างหนึ่ง

พระเทวีไอซิสเป็นผู้เก็บรักษาพระเนตรข้างนั้นไว้ ก่อนที่มหาเทพธอธจะประจุอาคมให้กลายเป็น วัดจัท (
Uadjat) สัญลักษณ์แห่งพลังอำนาจ

หลังจากนั้น เทพโฮรุสจึงเสด็จกลับมายังธีบีส และเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นเทวกษัตริย์ครองแผ่นดินอียิปต์ ต่อจากพระบิดาเป็นเวลาหลายร้อยปี กษัตริย์ที่เป็นมนุษย์จึงได้ครองราชย์สืบต่อกันมา โดยถือกันว่าสืบเชื้อสายต่อมาจากพระองค์

ส่วนพระเทวีไอซิส ยหลังสิ้นพระชนม์ ได้เสด็จไปประทับเคียงข้างจอมเทพโอสิริสในปรโลก ร่วมกับเทวีเนฟธีสและเทพอนูบิส เพื่อตัดสินชะตากรรมของดวงวิญญาณผู้วายชนม์ทั้งหลาย ไปจนกระทั่งวันสิ้นโลก ซึ่งจะเกิดภัยพิบัติครั้งยิ่งใหญ่ ที่ทำลายล้างเหล่ามนุษยชาติไปแทบทั้งหมด




หลังจากนั้นจะเป็นยุคทอง ซึ่งจอมเทพโอสิริส และพระชายาทั้งสองจะกลับมาปกครองโลก เพื่อสร้างสรรค์อารยธรรมอันเจริญรุ่งเรืองอย่างแท้จริง

เหล่าวิญญาณที่ดี จะพากันกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ในวันเวลาอันสวยสดงดงามนั้น และดำรงชีวิตด้วยความผาสุกไปตลอดกาล


……………………………


หมายเหตุ : เนื้อหาในบทความนี้ มีลิขสิทธิ์ ใครจะนำไปใช้อ้างอิงที่ใด ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด จะต้องระบุ URL ของแต่ละบทความด้วย และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าโดยเด็ดขาด

มงคลและอัปมงคล

  * วัตถุมงคลในบทความนี้ ไม่มีให้เช่าบูชา * ผมเคยอ่านโพสต์ใน facebook ของซินแสฮวงจุ้ยท่านหนึ่ง ท่านแนะนำว่า รูปภาพและสิ่งของที่ทำเลียนแบบโ...