วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ปกรณัมแห่งไอซิส ตอนที่ 3




ข้างพระเทวีไอซิส ที่คอยฟังข่าวด้วยความร้อนพระทัย ก็พบว่าพระสวามีของพระนางถูกสังหารเสียแล้ว

พระนางทรงกรรแสง จนน้ำพระเนตรแทบจะเป็นสายเลือด ทรงมีรับสั่งให้เหล่าทหารออกค้นหาพระศพไปตามลำน้ำไนล์

แต่เพราะกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก จึงไม่มีผู้ใดทราบว่าหีบพระศพได้ถูกพัดพาไปไกลถึง นครไบบลอส (Byblos ปัจจุบันอยู่ในเลบานอน) และไปติดอยู่ในดง แทมมาริสค์ (Tamarisk : พืชจำพวกสนชนิดหนึ่ง) ที่ขึ้นเรียงรายอยู่ริมฝั่งจนหนาทึบ

เมื่อไม่มีใครหาพระศพพบ พระเทวีก็เสด็จออกค้นหาด้วยพระองค์เอง ทั้งที่ยังทรงพระครรภ์ ทรงใช้ทั้งเวทมนต์และความรู้ทั้งมวลที่ทรงมีอยู่ แต่ก็ไม่อาจค้นหาร่องรอยของพระศพได้

พระนางได้เสด็จไปตามลำน้ำไนล์ไปไกล จนถึงเกาะ เคมมิส (Chemmis) ซึ่งอยู่ในเขตปากน้ำดินดอนสามเหลี่ยม

ที่นั่น นางพญางูวัดเจ็ท (Uadjet) แห่งอียิปต์ล่าง ได้ถวายการต้อนรับอย่างเต็มที่ แต่องค์เทวีเองก็ไม่ทรงรู้เรื่องเกี่ยวกับพระศพ

พระเทวีไอซิสไม่ทรงเห็นทางเลือกอื่น จึงได้แต่หยุดยั้งการค้นหาพระศพไว้ชั่วคราว และประทับในวังของนางพญางูด้วยความอ่อนล้า

ในที่สุด พระนางก็ทรงมีพระประสูติกาลพระโอรสที่นั่น

พระโอรสองค์นี้ ทรงมีเทวลักษณะเข้มแข็งสง่างามยิ่งนัก ทรงแสดงให้เห็นว่า จักทรงเจริญพระชันษาขึ้นเป็นนักรบที่กล้าหาญและทรงอานุภาพมากที่สุด

พระเทวีไอซิสทรงเศร้าพระทัย ที่พระโอรสประสูติโดยไม่มีพระสวามีของพระนางอยู่เคียงข้าง ทรงกอดยุวกษัตริย์องค์น้อยไว้แนบพระทรวง ตรัสว่า

ลูกชายของฉันเกิดมาโดยไม่มีพ่อ ไม่มีเสียงแซ่ซร้องของพสกนิกรผู้รอคอยการเกิดมาของเขา และเขาเกิดมาพร้อมกับหน้าที่ที่จะต้องแก้แค้นให้บิดาของเขา ฉันจักให้ชื่อเขาว่า โฮรุส (Horus)”

พระเทวีทรงเลี้ยงดูพระโอรสต่อไปในวังของนางพญางูวัดเจ็ท โดยนางพญางูและบริวารต่างช่วยกันถวายอภิบาลอย่างเต็มความสามารถ

โดยไม่มีใครรู้ว่า หีบพระศพซึ่งลอยเข้าไปติดอยู่ในดงแทมมาริสค์ริมฝั่งนครไบบลอสนั้น ในที่สุดก็ถูกห่อหุ้มด้วยกิ่งก้านสาขาของต้นแทมมาริสค์ จนไม่มีผู้ใดเห็นว่ามีอะไรอยู่ภายใน

และบรรดาต้นแทมมาริสค์ที่ห่อหุ้มหีบพระศพไว้อย่างมิดชิดนั้น ก็ถูกมหาดเล็กของ พระเจ้ามัลคันเดอร์ (Malcander) แห่งไบบลอส ตัดไปแกะสลักเป็นประติมากรรมที่งามวิจิตร เพื่อนำไปตั้งประดับไว้ในพระราชวัง โดยแม้แต่ช่างแกะสลักก็ไม่รู้ว่ามีหีบพระศพทั้งใบซ่อนอยู่ในนั้น

ในที่สุด พระเทวีไอซิสก็ไม่ทรงมีความหวังที่จะรอต่อไป พระนางจำต้องฝากยุวเทพโฮรุสไว้ภายใต้การดูแลของนางพญางูวัดเจ็ท และเดินทางติดตามหาพระศพไกลออกไปเรื่อยๆ

เวลายิ่งล่วงเลยไป พระนางก็ยิ่งพบกับความล้มเหลว จนแทบจะหมดกำลังที่จะตามหาต่อไปอีก




ทั้งนี้ เพราะแม้แต่เวทมนต์ที่ทรงมีอยู่ ก็ไม่อาจใช้ค้นหาพระสวามีได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้องค์เทวีทรงพิศวงยิ่งนัก

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า ต้นแทมมาริสค์นั้นเป็นพืชวิเศษชนิดหนึ่ง ที่มีอำนาจอยู่ในตัวของมันเอง ไม่มีพระเวทหรืออาคมใดๆ ที่จะแทรกผ่านอณูของมันเข้าไปได้เลยครับ

จนกระทั่งคืนหนึ่ง พระนางก็ทรงพระสุบินนิมิต

ในพระสุบินนั้น พระนางเสด็จพระดำเนินอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ ใกล้ฝั่งเมืองทานิส ทรงพบเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังชี้ชวนกันดูบางสิ่งบางอย่างที่ลอยอยู่ในน้ำ เมื่อพระนางเสด็จเข้าไปถามว่ากำลังดูอะไรกัน เด็กคนหนึ่งก็ร้องบอก

นั่นไงพระแม่เจ้า มีหีบไม้ใบใหญ่ทีเดียว กำลังลอยอยู่ในน้ำนั่นไง

พระเทวีทอดพระเนตรเห็นหีบไม้นั้น พลันพระวรกายก็ชาไปหมด ทรงทราบด้วยญาณวิเศษของพระนางทันทีว่านั่นคือหีบพระศพที่พระนางทรงตามหามาตลอด

พระนางทรงอุทานด้วยความดีพระทัย ทรงวิ่งตามหีบพระศพนั้นไปตามริมฝั่งน้ำ จนเห็นดงแทมมาริสค์ขนาดใหญ่ และพระราชวังแห่งไบบลอส 

มหาเทพนารีผู้เลอโฉมตื่นขึ้นมาด้วยความดีพระทัยเป็นล้นพ้น 

ถึงอำนาจเฉพาะตัวของต้นแทมมาริสค์ จะสกัดกั้นทิพย์ญาณของพระนางได้ แต่ก็ไม่สามารถขวางกั้นพลังแห่งความซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่พระนางทรงมีต่อพระสวามีได้

พระหฤทัยแห่งพระนางบัดนี้ แทบจะลอยไปถึงพระราชวังของกษัตริย์มัลคันเดอร์

ในเบื้องแรก พระนางทรงพระดำริจะเสด็จเข้าสู่พระราชวังแห่งนั้น ในฐานะขององค์สุริยรานีแห่งแดนไอยคุปต์ ซึ่งแม้ไบบลอสจะมิได้อยู่ในขอบขัณฑสีมา ทั้งกษัตริย์และราชินีก็จะต้องยินดีต้อนรับ และกระทำทุกอย่างที่ทรงต้องการอย่างแน่นอน


โบราณสถานของนครไบบลอส ปัจจุบันอยู่ในเลบานอน

แต่เมื่อทรงไตร่ตรองแล้ว ก็ทรงเห็นว่าไม่เป็นการเหมาะสม

อีกทั้งหากทรงแฝงกายเข้าไปโดยวิธีอื่น พระนางอาจทรงกระทำสิ่งมหัศจรรย์ ให้ราชสำนักแห่งไบบลอสได้ประจักษ์ในเทวานุภาพ

ซึ่งจะทำให้พระนาง และพระสวามีทรงมีชื่อเสียงเกียรติยศยั่งยืนยิ่งกว่า

พระนางจึงทรงจำแลงพระกายเป็นหญิงชราคนหนึ่ง แล้วไปพำนักอยู่ริมแม่น้ำบริเวณที่เหล่านางกำนัลของ พระราชินีอัสตาร์เต (Astarte) มเหสีของพระเจ้ามัลคันเดอร์มาอาบน้ำกันเป็นประจำ

พอถึงเวลาที่เหล่านางกำนัลพากันมาอาบน้ำตามปกติ ก็ได้พบกับหญิงชรา และได้พูดคุยกันอย่างถูกคอ

ไม่เพียงเท่านั้น หญิงชรายังได้สอนวิธีการดัดผม การแต่งผมด้วยการประดับดอกไม้ให้ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่บรรดาสาวๆ ชาวไบบลอสไม่เคยเรียนรู้มาก่อน

เมื่อเหล่านางกำนัลที่ตกแต่งทรงผมของตนอย่างสวยงาม พากันกลับพระราชวัง พวกหล่อนสะดุดตาทุกคน รวมทั้งพระราชินีอัสตาร์เต

พระนางรับสั่งถามถึงต้นสายปลายเหตุ นางกำนัลก็ทูลตอบไปตามความเป็นจริง

ใครที่รู้วิธีแต่งผมให้งามแปลกตาได้ถึงเพียงนี้ ต้องเป็นสตรีสูงศักดิ์มาจากนครที่เจริญรุ่งเรืองแห่งใดแห่งหนึ่งเป็นแน่ พระนางรำพึง

พวกเธอรีบกลับไปตามนางมาหาเราเร็วเข้า

เมื่อพวกนางกำนัลไปตามหญิงชราปลอมมาเข้าเฝ้า พระราชินีก็ทรงให้การต้อนรับอย่างดี 

ทรงมีรับสั่งให้หญิงชราพำนักอยู่ในพระราชวัง และยังทรงขอร้องให้ช่วยถวายการอภิบาล เจ้าชายดิคติส (Diktys) ซึ่งกำลังประชวรหนัก จวนเจียนจะสิ้นพระชนม์อยู่ในขณะนั้นอีกด้วย

ทั้งนี้ เพราะพระนางอัสตาร์เตทรงแน่พระทัยว่า หญิงชราผู้ลี้ลับนี้จะต้องมีความรู้พิเศษอีกมากมายหลายอย่าง และนั่นอาจช่วยพระโอรสของพระนางได้

และพระราชินีก็ไม่ผิดหวัง ด้วยการถวายอภิบาลของหญิงชราปลอม เจ้าชายค่อยๆ บรรเทาอาการประชวร พระพลานามัยแข็งแรงขึ้นดีวันดีคืน ทั้งที่บรรดาแพทย์หลวงต่างหมดหนทางไปก่อนหน้านี้แล้ว

แต่ในท่ามกลางความยินดีของพระราชวงศ์และประชาชนทั้งหมด พระราชินีก็ทรงทราบถึงพฤติกรรมที่ผิดปกติของหญิงชรา จากนางกำนัลด้วย

นางมักจะแอบเข้าไปในห้องที่ตั้งเสาแทมมาริสค์ต้นใหญ่นั้น ปิดประตูขังตัวเอง ไม่มีใครรู้ว่านางเข้าไปทำอะไร แต่คนที่แอบฟังได้ยินเสียงเหมือนนางกำลังก่อกองไฟ เสียงเหมือนนางกลืนอาหารบางอย่าง และนางก็ส่งเสียงหัวเราะ

คืนวันหนึ่ง พระราชินีจึงเข้าไปแอบซ่อนอยู่ในห้องนั้น และแล้วพระนางก็ได้เห็นพฤติกรรมอันน่าขนพองสยองเกล้าที่สุด

นั่นคือ หญิงชราได้ก่อกองไฟขึ้นจริงๆ ก่อนจะอุ้มร่างของเจ้าชายไปวางไว้บนกองฟืนที่กำลังลุกโชติช่วง จากนั้นก็ร่ายรำไปรอบๆ เสาแทมมาริสค์ พร้อมทั้งส่งเสียงคร่ำครวญด้วยความโศกเศร้า

พระราชินีไม่อาจทนทอดพระเนตรได้อีกต่อไป พระนางกรีดร้อง พลางถลันเข้าไปอุ้มพระโอรสออกจากกองไฟ

แต่พอพระนางจะวิ่งออกจากห้องนั้น พระนางก็ก้าวพระบาทไม่ได้




ขณะนั้นเอง หญิงชราหลังค่อมก็กลับยืดตัวตรงขึ้น ร่างกายของนางค่อยๆ เปล่งแสงสีทองจนสว่างเจิดจ้า ภาพของหญิงชราหายไป กลายเป็นพระวรกายอันงดงามและเครื่องพัสตราภรณ์อันวิจิตรตระการตา

พระเทวีไอซิสตรัสว่า

ราชินีโง่ หากเธอปล่อยให้เราเผาลูกของเธอแล้ว เขาจะหายจากความเจ็บไข้อย่างสมบูรณ์ และกลายเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่ง และด้วยความโง่ของเธอครั้งนี้ เขาจะมีชีวิตต่อไปได้อีกไม่กี่วันเท่านั้น

พระเจ้ามัลคันเดอร์ และเหล่าทหารรักษาพระองค์เข้ามาทันได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด พระองค์ทรงคิดได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น รีบสั่งให้เหล่าทหารคุกเข่าลงถวายบังคม

พระองค์เองก็รีบพาพระราชินีคุกเข่าลงด้วยกัน ทูลขอให้พระเทวีประทานพรพระโอรสให้มีพระชนม์ยั่งยืนต่อไป โดยยินยอมถวายสมบัติทั้งหมดในนครไบบลอสเป็นการตอบแทน

เราไม่ต้องการสมบัติของพวกท่าน พระเทวีรับสั่ง

เราต้องการแต่สิ่งที่อยู่ภายในเสาแทมมาริสค์ต้นนี้เท่านั้น หากท่านยกให้เรา ลูกชายของท่านก็จักได้รับพรของเรา

ทั้งกษัตริย์และราชินีทั้งพิศวงและยินดี รีบบัญชาทหารให้ไปตามช่างไม้มา เมื่อบรรดาช่างไม้มาถึงและตัดเสาต้นนั้นออกก็พบว่า มีหีบพระศพอันสวยงามอยู่ในนั้นจริงๆ




พระเทวีไอซิสทรงประพรมเครื่องหอมทั่วเสาต้นนั้น และรับสั่งต่อไป

ด้วยวาจาสิิทธิ์ของเรา ไอซิส, ลูกชายของท่านจักเติบโตขึ้น เป็นกษัตริย์ผู้ทรงอานุภาพปกครองดินแดนแถบนี้ให้เจริญมั่นคงไปตลอดอายุขัย

ส่วนเสาต้นนี้ ท่านทั้งสองจงนำไปรักษาไว้ในเทวสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด นับแต่นี้ไปอีกหลายร้อยปี บรรดานักบวชจากทั่วโลกจักเดินทางมาแสวงบุญ ณ เทวาลัยดังกล่าว ไบบลอสจักเป็นนครศักดิ์สิทธิ์ และรุ่งเรืองไปชั่วกาลนาน

หลังจากนั้น พระเทวีไอซิสก็ทรงอัญเชิญหีบพระศพลงเรือที่ราชสำนักไบบลอสจัดถวายเป็นพิเศษ เดินทางกลับสู่แดนไอยคุปต์



……………………………


หมายเหตุ : เนื้อหาในบทความนี้ มีลิขสิทธิ์ ใครจะนำไปใช้อ้างอิงที่ใด ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด จะต้องระบุ URL ของแต่ละบทความด้วย และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าโดยเด็ดขาด


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

มงคลและอัปมงคล

  * วัตถุมงคลในบทความนี้ ไม่มีให้เช่าบูชา * ผมเคยอ่านโพสต์ใน facebook ของซินแสฮวงจุ้ยท่านหนึ่ง ท่านแนะนำว่า รูปภาพและสิ่งของที่ทำเลียนแบบโ...