วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ปกรณัมแห่งไอซิส ตอนที่ 2





เมื่อทรงฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง องค์สุริยเทพก็ทรงรับรู้ว่า ไม่มีประโยชน์อันใดที่พระองค์จะทรงปกครองแผ่นดินโลกต่อไปอีก ยุคสมัยของพระองค์ได้จบสิ้นลงแล้ว

จอมเทพผู้ชราจึงประกาศสละเทวบัลลังก์แห่งโลก ประทานจอมเทพโอสิริส

แล้วพระองค์ก็เสด็จกลับสวรรค์ ทรงดำรงตำแหน่งพระเป็นเจ้าสูงสุดปกครองคณะเทพทั้งปวงที่อยู่ในเทวโลก และยังคงเสด็จประทับบนสุริยนาวา โคจรข้ามขอบฟ้าเพื่อตรวจตราสิ่งต่างๆ ในโลกมนุษย์ต่อไป

ขณะที่จอมเทพโอสิริสเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นผู้ครองแผ่นดินโลกลำดับที่สอง โดยมีพระเทวีไอซิสดำรงตำแหน่งพระราชินี

ปวงเทพทั้งหลายในโลกและเหล่ามนุษย์ต่างปลื้มปีติยิ่งนัก เพราะพวกเขาต่างเฝ้ารอเวลานี้มานานแสนนาน จนแทบจะสิ้นหวังอยู่แล้ว

และจอมเทพโอสิริสก็ไม่ทรงทำให้ผู้เคารพรักพระองค์ต้องผิดหวังเลยครับ

พระองค์ทรงสร้างเมืองหลวงใหม่ขึ้น ประทานนามว่า ธีบีส (Thebes : ภาษาอียิปต์โบราณว่า Waset)  ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยความเมตตากรุณา และพระปรีชาญาณอันหลักแหลม ทำให้พสกนิกรต่างดำรงชีพด้วยความร่มเย็นเป็นสุข




ยิ่งไปกว่านั้น ยังทรงกระทำผู้คนของพระองค์ให้พ้นจากความป่าเถื่อน กลายเป็นผู้มีอารยธรรม ทรงบัญญัติกฎระเบียบ เพื่อให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้ นับว่าทรงมีคุณูปการต่อมวลมนุษย์มากอย่างไม่มีประมาณ

อีกทั้งยังทรงสั่งสอนให้นักบวช และประชาชนรู้จักการปฏิบัติบูชาเทพเจ้าอย่างถูกต้อง ตลอดจนการสร้างเทวสถานสำหรับเทพเจ้าแต่ละองค์ตามเมืองต่างๆ โดยทรงสร้างมหาเทวาลัยแห่งธีบีสขึ้นเป็นแห่งแรกสุด เพื่อถวายแด่องค์สุริยเทพรา

ภายใต้การสร้างสรรค์ของพระสวามี พระเทวีไอซิสก็ทรงเป็นกำลังสำคัญ ช่วยรับสนองพระกรณียกิจต่างๆ ให้ลุล่วง

พระนางเองทรงสั่งสอนวิชาหัตถกรรมแก่ผู้ชาย ทรงสอนให้พวกผู้หญิงรู้จักทอผ้า ทรงสอนให้ทุกคนรู้จักการเลี้ยงสัตว์ การเพาะปลูก การเก็บเกี่ยวและการทำขนมปังจากข้าวสาลี ข้าวบาเลย์ การเพาะปลูกองุ่นเพื่อนำมาทำเหล้าไวน์ การครองเรือน และการอบรมดูแลบุตรหลานอย่างถูกต้อง

ยิ่งไปกว่านั้น ยังทรงสั่งสอนศิลปวิทยาการทุกแขนง แม้จนการแพทย์ เช่นการใช้ยาสมุนไพรรักษาโรค การปรุงน้ำมันหอม การผ่าตัด รวมไปถึงพยากรณศาสตร์และการสาธารณสุข พระนางจึงทรงเป็นที่เคารพรักของทุกชีวิตในโลกเช่นเดียวกับพระสวามี

ในเวลาเดียวกัน เทพเซธซึ่งได้รับเทวโองการจากองค์สุริยเทพ ให้แยกไปปกครองอาณาจักรทางแถบทะเลทราย ก็กระทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม

บ้านเมืองของพระองค์มีแต่ความกันดารแร้นแค้น เพราะพระองค์ไม่ทรงใส่พระทัยที่จะสั่งสอนให้ผู้คนของพระองค์รู้จักการกสิกรรม ประชาชนในอาณาจักรของพระองค์ ต่างดำรงชีวิตไม่แตกต่างจากชนป่าเถื่อน พวกเขาต้องล่าสัตว์เพื่อยังชีพ และป้องกันตนเองจากภัยธรรมชาติอันทารุณโหดร้ายไปวันๆ




แต่อันตรายที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด กลับมาจากเหล่าเทพบริวารและขุนนางของเทพเซธ ที่กดขี่ข่มเหงผู้คนเพื่อแสดงอำนาจบารมีอยู่เนืองๆ แล้วก็พากันรีดนาทาเร้น ฉกฉวยผลผลิตที่หามาด้วยความยากลำบากไปสู่ราชสำนัก เพื่อปรนเปรอเทพเซธให้สุขสบายอยู่เพียงผู้เดียว

ซึ่งถึงแม้ว่า เทวีเนฟธิสผู้เป็นชายาจะทรงพยายามทัดทาน ให้ทรงเห็นแก่ความทุกข์ยากของประชาชนบ้าง ก็ไม่เป็นผล

นานวันเข้า คนส่วนใหญ่ก็อพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในธีบีส จนเหลือแต่คนที่มีจิตใจหยาบกระด้างและก้าวร้าวเท่านั้นละครับ ที่ยังสมัครใจอยู่ในการปกครองของเทพเซธ

ไม่เพียงแต่ประชาชนเท่านั้น แม้แต่องค์เทวีเนฟธิส พระชายาของเทพเซธเองก็ไม่อาจจะทานทนได้ต่อไปเช่นกันครับ

เป็นความจริงที่ว่า พระนางไม่เคยพอพระทัยในการเสกสมรสกับเทพเซธ เพราะว่าทรงหลงรักจอมเทพโอสิริสมาตั้งแต่แรก

เมื่อจำใจต้องแต่งงาน และพบว่าพระสวามีเริ่มมีพฤติกรรมเป็นทรราชย์มากขึ้นทุกที ขณะที่ต้องทรงเฝ้ามองจอมเทพโอสิริสกับพระเชษฐภคินีครองรักกันอย่างแสนสุขด้วยความอิจฉา

พระนางตัดสินพระทัยลอบเข้าไปพบองค์จอมเทพ ในคืนวันหนึ่งที่พระเทวีไอซิสไม่อยู่ และถวายน้ำจัณฑ์แด่พระองค์อย่างมากมาย เพื่อเล้าโลมให้ทรงมีสัมพันธ์ด้วย

ในชั้นแรก จอมเทพโอสิริสไม่ทรงยินยอม แม้จะเสวยน้ำจัณฑ์ไปมากเพียงใดก็ยังทรงปฏิเสธ แต่ไม่มีสิ่งใดขัดขวางความต้องการของเทวีเนฟธิสได้หรอกครับ




พระนางทำทีว่าทรงเปลี่ยนพระทัย และเสด็จกลับอาณาจักรทะเลทราย แต่เมื่อออกจากวังของจอมเทพ พระนางก็แปลงร่างเป็นพระเทวีไอซิส รออยู่สักระยะก่อนจะกลับเข้าไปอีกครั้ง

องค์จอมเทพเข้าพระทัยว่าพระชายาเสด็จกลับมาแล้ว ก็ทรงบรรทมร่วมกับพระนาง

คืนวันนั้น เมื่อพระเทวีไอซิสเสด็จกลับมาจริงๆ และได้ทอดพระเนตรว่าเกิดอะไรขึ้น พระนางทรงพระพิโรธเป็นอย่างมาก

แต่ด้วยน้ำพระทัยเมตตา อันยากจะหาเทพอื่นใดทัดเทียม พระนางมิได้ทรงลงโทษประการใดแก่พระขนิษฐา เพียงแต่ทรงมีรับสั่งว่า

การที่เธอกระทำอย่างนี้ ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอดีทุกอย่าง มันไม่แปลกที่ใครๆ จะเคารพรักองค์จอมเทพเท่ากับฉันหรือยิ่งกว่า และเมื่อคิดถึงความประพฤติของเทพเซธแล้ว เรื่องเช่นนี้ก็เป็นที่เข้าใจได้ง่ายขึ้น

เพราะเหตุนี้ฉันจะไม่เอาผิดเธอ และจะยินยอมให้เธอเป็นภรรยาอีกคนหนึ่งของสามีฉันได้ตามที่เธอต้องการ และหากการกระทำนี้จะเป็นเหตุให้เธอได้รับความเดือดร้อนใดๆ จากสามีของเธอ เธอสามารถแน่ใจได้ว่า ฉันยังเห็นเธอเป็นน้องสาวที่ฉันจะต้องปกป้องคุ้มครองเสมอ

เล่ากันว่า เทวีเนฟธิสถึงกับร่ำไห้ด้วยความตื้นตันใจ และความอิจฉาริษยาที่ทรงมีต่อพระเชษฐภคินีมาตลอดก็สูญสิ้นไปหมด

พระนางเสด็จกลับอาณาจักรทะเลทราย ด้วยความสุขในคืนนั้น และไม่นานก็ทรงตั้งครรภ์พระโอรสองค์แรก โดยต้องทรงอำพรางไว้อย่างสุดความสามารถ มิให้เทพเซธล่วงรู้ได้

เมื่อพระโอรสขององค์เทวีประสูติ ก็ทรงได้พระนามว่า อนูบิส (Anubis) ซึ่งต่อมาพระเทวีไอซิสก็ทรงรับไปเลี้ยงดูในธีบีสเพื่อความปลอดภัย โดยที่เทพเซธไม่ทรงล่วงรู้อะไรทั้งสิ้น

ส่วนเทพอนูบิสก็เจริญพระชันษาขึ้น โดยได้รับการสั่งสอนสรรพวิชาอาคมทั้งหลาย จนเป็นเทพที่ทรงความรู้ด้านเวทมนต์และพิธีกรรมอย่างดีที่สุดอีกองค์หนึ่ง

ด้วยเหตุนี้ ทำให้เทวีเนฟธิสทรงสาบานว่า หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับครอบครัวของจอมเทพโอสิริสแล้ว พระนางจะทรงอุทิศตัวช่วยเหลือพระเชษฐภคินีอย่างสุดความสามารถ โดยไม่รั้งรอเลยครับ

เมื่อธีบีสเจริญรุ่งเรือง จนมีชื่อเสียงไปทั่วโลก จอมเทพโอสิริสก็ทรงนึกถึงมวลมนุษย์ที่ตั้งหลักแหล่งอยู่ห่างไกลออกไป และยังป่าเถื่อนอยู่

พระองค์จึงทรงสถาปนาพระเทวีไอซิสขึ้นเป็นสุริยรานี ปกครองอียิปต์แทนพระองค์เป็นการชั่วคราว

ส่วนพระองค์เอง พร้อมด้วยคณะเทพผู้ทรงอุปถัมภ์ด้านต่างๆ มีเทพธอธและเทพอนูบิสเป็นต้น อีกทั้งเหล่านักบวช และนักปราชญ์จำนวนหนึ่งก็ออกเดินทางไปทั่วโลก เพื่อสั่งสอนศิลปวิทยาการให้คนเหล่านั้นกลายเป็นผู้มีอารยธรรมต่อไป

ภายใต้การปกครองของพระเทวีไอซิส พสกนิกรยังคงได้รับความผาสุกเช่นเดิมครับ

แต่ในที่สุด เทพเซธผู้ริษยาก็ไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไป

พระองค์เริ่มสงคราม ด้วยการยกกองทัพเข้าจู่โจมธีบีสเพื่อชิงบัลลังก์ของพระเทวีไอซิส แต่ก็ถูกต่อต้านด้วยเทวานุภาพ จนต้องพ่ายแพ้กลับไปอย่างยับเยิน

แต่เทพเซธไม่เข็ดหลาบ พระองค์นำกองทัพเข้าตีกรุงธีบีสอีกหลายครั้ง แต่ก็ถูกเสนาบดีฝ่ายพระเทวีไอซิสตอบโต้อย่างเฉียบขาด จนต้องพ่ายแพ้ไปทุกครั้งเช่นกัน

องค์เทพเซธเองทรงใช้มนต์ดำ อันมีอานุภาพรุนแรงโหดเหี้ยมที่สุดต่อพระเทวีไอซิส แต่มนต์ดำเหล่านั้นก็ไม่มีผลอะไรเลยกับองค์เทวีแห่งเวทมนต์ชั้นสูงสุด




การที่เทพเซธทรงก่อความวุ่นวายขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ไม่อาจได้รับชัยชนะ ทำให้เหล่าเสนาบดีทูลถวายคำแนะนำพระเทวีไอซิส ให้ทรงส่งทหารที่ไว้ใจได้ไปถวายรายงานองค์จอมเทพ ถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น

แต่พระเทวีก็ไม่ทรงเห็นด้วย และทรงปกปักรักษานครธีบีสต่อไปด้วยเทวานุภาพแห่งพระนางเอง

ในที่สุด เมื่อถึงฤดูกาลที่แม่น้ำไนล์ท่วมท้นสองฟากฝั่ง กระแสน้ำไหลเชี่ยว จอมเทพโอสิริสก็เสด็จกลับมาถึงท่ามกลางความปีติยินดีของชาวธีบีสทุกคน

เมื่อทรงออกว่าราชการอีกครั้ง บนเทวบัลลังก์แห่งโลก พระเทวีไอซิสและคณะเสนาบดี ได้ทูลรายงานสิ่งที่เทพเซธและบริวารได้ก่อขึ้นทั้งหมด

แต่เมื่อสดับแล้ว จอมเทพกลับทรงมีพระดำรัสว่า

คนเราเมื่อทำความชั่วแล้วไม่เป็นผล ในที่สุดก็จะต้องรู้จักสำนึก

เซธเป็นน้องของฉัน เมื่อฉันไม่อยู่ เขาอาจทำอะไรเกินเลยไปบ้าง แต่ฉันกลับมาดังนี้ เขาคงไม่กล้าทำอะไรอีก

และถ้าฉันให้อภัยแก่เขา เขาก็คงกลับตัวกลับใจได้

จงดูเถิด ไอซิส, ฉันได้เดินทางไปทั่วโลก กระทำคนป่าเถื่อนนับแสนให้เป็นผู้มีอารยธรรม แม้แต่คนที่กินเนื้อคนด้วยกันเอง ฉันก็โน้มน้าวใจให้เขาเลิก โดยไม่เคยต้องใช้กำลังบังคับ

แล้วกับน้องซึ่งหลงผิดไปเช่นนี้ มีหรือที่ฉันจะเอาชนะใจเขาไม่ได้?”

พระเทวีไอซิสและคณะเสนาบดี ไม่รู้จะถวายคำแนะนำสิ่งใดได้ นอกจากทูลขอให้ทรงระวังพระอนุชาไว้บ้าง

แต่จอมเทพก็ยังทรงยืนยันพระดำริเดิม พระเทวีไอซิสได้แต่ทรงเก็บงำความหวั่นพระทัยไว้เงียบๆ

เย็นวันนั้นเอง บริวารของเทพเซธขอเข้าเฝ้า กราบบังคมทูลว่า

"เทพเซธซึ่งได้หลงผิดไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้ประจักษ์ในพระบารมีอันศักดิ์สิทธิ์แห่งพระองค์แล้ว และได้เตรียมงานเลี้ยงฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ไว้สำหรับต้อนรับการเสด็จกลับมาของพระองค์

ขณะนี้งานดังกล่าวกำลังจะเริ่ม บรรดาขุนนาง คหบดี และผู้มีชื่อเสียงของทางอาณาจักร ตลอดจนเจ้าครองนครที่อยู่ไกลออกไปต่างพากันมาเฝ้ารอชมพระบารมีของพระองค์"

จอมเทพทรงฉลองพระองค์อย่างหรูหรา และเสด็จไปวังของเทพเซธทันที พร้อมกับทหารองครักษ์เพียงไม่กี่นายเท่านั้น

เมื่อไปถึงก็ทรงเห็นว่า งานเลี้ยงฉลองนั้นเป็นงานใหญ่จริงๆ เต็มไปด้วยผู้คนที่ทรงรู้จัก ที่ต่างก็โห่ร้องถวายพระพร และชื่นชมพระบารมีขณะเสด็จเข้าสู่ท้องพระโรง

เทพเซธ และเทพบริวารทั้ง 72 องค์ได้รอถวายการต้อนรับอยู่แล้ว และได้ทูลเชิญให้เสด็จประทับในที่สำหรับผู้มีความสำคัญสูงสุดของงาน

ไม่มีสิ่งใดในสายพระเนตร ที่ทำให้องค์เทวกษัตริย์ทรงสำเหนียกถึงภยันตรายครับ

ตลอดงานเต็มไปด้วยเสียงดนตรี อาหารเลิศรส การละเล่น และการแสดงอันน่าตื่นตา เทพเซธทรงสรรเสริญพระองค์หลายครั้ง และทุกครั้งผู้มาร่วมงานทั้งหมดก็ร่วมถวายพระพร 

จนในที่สุด เมื่อถึงตอนท้ายของงาน เทพเซธก็ประกาศว่า ได้เตรียมของขวัญล้ำค่าไว้ชิ้นหนึ่ง เพื่อมอบแก่แขกที่โชคดีที่สุดในงานเพียงคนเดียวเท่านั้น

เหล่าทหารร่างกำยำพากันแบบหีบไม้ขนาดใหญ่มาใบหนึ่ง เมื่อวางมันลงเบื้องหน้าที่ประทับ องค์จอมเทพโอสิริสก็ทรงพระสรวลด้วยความพอพระทัย

มันเป็นหีบไม้ซีดาร์ขนาดใหญ่พอๆ กับผู้ชายคนหนึ่ง ทั้งใบสลักเสลาอย่างงดงามด้วยฝีมืออันไม่มีที่ติ แม้แต่ส่วนที่เป็นลวดลายต่างๆ ก็ฝังทองคำ ประกอบอัญมณีน้ำงามที่สุด สลับงาช้างอย่างวิจิตรพิสดาร แพรวพราวไปทั่ว

หีบใบนั้นสว่างเรืองรองเป็นจุดเด่นที่สุดในห้องนั้น ทันทีที่ทุกคนได้เห็นมัน ทุกคนตกตะลึงจนไม่มีใครทันสังเกตว่า ประตูทุกบานที่จะเข้าออกท้องพระโรงได้ต่างถูกปิดจนหมดสิ้น

เทพเซธให้บริวารคนหนึ่งเปิดฝามันออก พลางป่าวประกาศต่อไปว่า ใครก็ตามที่สามารถเข้าไปในนอนในหีบได้พอดี ก็จะได้ครอบครองมัน

บรรดาแขกรับเชิญ ที่กะว่าร่างกายของตนมีขนาดพอดีกับภายในหีบ ต่างแย่งกันพยายามลงไปนอน จนเทพเซธต้องให้เหล่าเทพบริวารช่วยควบคุมให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

ขณะนั้น จอมเทพโอสิริสก็ทรงพระสรวล และเสวยน้ำจัณฑ์อย่างพอพระทัยมากทีเดียว พระองค์ทรงรักความสนุกสนาน และโปรดที่จะเห็นทุกคนมีความสุข

แต่คนแล้วคนเล่าที่ลงไป ต่างก็ต้องลุกขึ้นมาด้วยความผิดหวัง ท่ามกลางเสียงหัวเราะเซ็งแซ่ ไม่มีใครมีขนาดร่างกายที่พอดีกับหีบใบนั้น

จนในที่สุด เมื่อคนที่คิดว่าเหมาะสมได้ทดสอบจนหมด องค์จอมเทพก็ทรงขอทดลองบ้าง




พระองค์ย่างพระบาทลงไปในหีบ ทรงนั่งลงอย่างขลุกขลักเล็กน้อย และเมื่อพระองค์นอนลงภายในหีบ โดยยกพระกรทั้งสองขึ้นไขว้กันบนพระอุระ ทุกคนก็เห็นชัดว่าทรงประทับในหีบไม้นั้นได้พอดีที่สุด

ยิ่งเมื่อเหล่าเทพบริวารช่วยกันวัดขนาด และพากันลงมติว่าถูกต้อง เสียงถวายพระพรและเสียงปรบมือก็เซ็งแซ่

ทันใดนั้น เหล่าทหารของเทพเซธก็ปิดฝาอันหนักของหีบใบนั้น ดังสนั่นหวั่นไหว มัดซ้ำด้วยเชือกอย่างแน่นหนาและรวดเร็วที่สุด ท่ามกลางเสียงเอะอะ และเสียงกรีดร้องของแขกทุกคน

แต่เทพเซธไม่สนพระทัย

พระองค์สั่งให้ต้อนทุกคนไปรวมกันไว้ที่มุมหนึ่งของท้องพระโรง ขณะที่เหล่าทหารช่วยกันแบกหีบไม้อันเลอค่านั้น ไปโยนลงแม่น้ำไนล์ พร้อมกับศพขององครักษ์ที่ตามเสด็จองค์จอมเทพ

ในไม่ช้า องค์เทวกษัตริย์ก็สิ้นพระชนม์ภายในหีบไม้นั้น



……………………………


หมายเหตุ : เนื้อหาในบทความนี้ มีลิขสิทธิ์ ใครจะนำไปใช้อ้างอิงที่ใด ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด จะต้องระบุ URL ของแต่ละบทความด้วย และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าโดยเด็ดขาด

2 ความคิดเห็น:

มงคลและอัปมงคล

  * วัตถุมงคลในบทความนี้ ไม่มีให้เช่าบูชา * ผมเคยอ่านโพสต์ใน facebook ของซินแสฮวงจุ้ยท่านหนึ่ง ท่านแนะนำว่า รูปภาพและสิ่งของที่ทำเลียนแบบโ...